สิงห์ไทย สิงห์ขอม สิงห์จีน
สิงห์ เป็นสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญในศิลปะ วัฒนธรรม และความเชื่อของหลายประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย กัมพูชา และจีน แต่ละประเทศมีรูปแบบและความหมายของสิงห์ที่แตกต่างกันไป
สิงห์ไทย
ลักษณะ: สิงห์ไทยมีลักษณะคล้ายสิงโต แต่มีรูปร่างที่อ้วนป้อม หน้าตาดุ เขี้ยวแหลมคม หางยาว สิงห์ไทยมักมีอิริยาบถยืนสองขาหน้า ตระหง่าน แสดงถึงพลังอำนาจ
ความหมาย: สิงห์ไทยเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ อำนาจ สง่างาม มักถูกนำมาประดับตกแต่งสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น พระราชวัง วัดวาอาราม ประตูเมือง สิงห์ไทยยังเป็นสัญลักษณ์ของพระบารมี ความยิ่งใหญ่ ของพระมหากษัตริย์ไทย
ตัวอย่าง: สิงห์หน้าพระลาน สิงห์คู่หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สิงห์คู่หน้าวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

สิงห์ขอม
ลักษณะ: สิงห์ขอมมีลักษณะคล้ายสิงโต แต่มีรูปร่างที่ผอมเพรียว หน้าตาดุ เขี้ยวแหลมคม หางยาว สิงห์ขอมมักมีอิริยาบถนั่งสองขาหลัง หางยาว แสดงถึงความสง่างาม
ความหมาย: สิงห์ขอมเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ อำนาจ ศักดิ์สิทธิ์ มักถูกนำมาประดับตกแต่งสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาทหิน โบราณสถาน สิงห์ขอมยังเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าฮินดู เชื่อกันว่าสิงห์ขอมมีพลังคุ้มครองป้องกันสิ่งชั่วร้าย
ตัวอย่าง: สิงห์คู่หน้าปราสาทหินพิมาย สิงห์คู่หน้าปราสาทหินเขาพระวิหาร สิงห์คู่หน้าปราสาทหินตาพรหม

สิงห์จีน
ลักษณะ: สิงห์จีนมีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก หน้าตาดุ เขี้ยวแหลมคม หางยาว สิงห์จีนมักมีอิริยาบถยืนสองขาหน้า ตระหง่าน แสดงถึงความกล้าหาญ
ความหมาย: สิงห์จีนเป็นสัญลักษณ์ของความโชคลาภ ความร่ำรวย อำนาจ มักถูกนำมาประดับตกแต่งสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ประตูบ้าน ร้านค้า อาคารสำนักงาน สิงห์จีนยังเป็นสัญลักษณ์ของฮวงจุ้ย เชื่อกันว่าสิงห์จีนช่วยเสริมดึงดูดพลังงานที่ดีเข้ามา
ตัวอย่าง: สิงห์คู่หน้าประตูวัด สิงห์คู่หน้าร้านทอง สิงห์คู่หน้าธนาคาร
สรุป
สิงห์ไทย สิงห์ขอม และสิงห์จีน ล้วนมีรูปแบบ ความหมาย และบทบาทที่สำคัญในวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงคติความเชื่อ ประเพณี และศิลปะที่แตกต่างกัน